นวนิยายผจญภัยอิงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองด้วยการดำเนินเรื่องโดยมีฉากหลังเป็นเกาะตะรุเตาในทะเลอันดามัน เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของชายแดนไทยอยู่ห่างจากเกาะลังกาวีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมลายูอาณานิคมของอังกฤษเพียง 5 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากกรุงเทพฯถึง 1,126 กิโลเมตร ได้ถูกเลือกโดยรัฐบาลไทยใน พ.ศ. 2481 ให้เป็นทัณฑสถานเพื่อกักกันนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ต่าง ๆ จำนวนกว่า 3,000 คน ตำนานของตะรุเตาเริ่มถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์เมื่อได้ต้อนรับนักโทษการเมืองคดีกบฎบวรเดชและคดีกบฎนายสิบจำนวน 70 นายมาคุมขังบนเกาะ
ร้อยโทเควิน น็อกซ์แห่งกองทัพอังกฤษในมลายูกับทหาร 5 คนในบังคับบัญชาของเขาได้รับคำสั่งให้ตามจับนักโทษทหารอังกฤษ 2 คนคือฮอว์กินส์กับแกรนท์ซึ่งหลบหนีโทษประหารชีวิตจากที่คุมขังในค่ายทหารที่โกตาบารู ฮอว์กินส์กับแกรนท์หนีจากมลายูเข้ามาในไทยและไปหลบซ่อนอยู่บนตะรุเตาโดยไม่รู้ว่าเป็นคุก
น็อกซ์กับทหารของเขาถูกทหารญี่ปุ่นซึ่งยึดครองมลายูได้จับตัวขณะไล่ตามฮอว์กินส์กับแกรนท์และถูกส่งตัวในฐานะนักโทษสงครามไปคุมขังบนเกาะตะรุเตาพร้อมกับนักเผชิญโชคชาวอเมริกันชื่อคันนิงแฮมทำให้ได้พบกับฮอว์กินส์และแกรนท์
ตำนานของเกาะตะรุเตาเข้มข้นถึงที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พ.ศ.2487-2489 ความอดอยาก ขาดแคลน ทำให้นักโทษและผู้คุมแปรสภาพเป็นโจรสลัด ปล้นสะดมเรือสินค้าที่ผ่านไปมาระหว่าง ปีนัง-กันตังเผาเรือ ฆ่ากัปตันและลูกเรืออย่างโหดร้าย จนเป็นที่หวาดกลัวไปทั่ว ขณะที่ฮอว์กินส์กับแกรนท์และคันนิงแฮมร่วมกับพวกโจรสลัด น็อกซ์กับทหารของเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม ทำให้ถูกโจรสลัดไล่ล่าเพื่อปิดปาก แต่ก็สามารถหนีจากตะรุเตาไปลังกาวีได้สำเร็จ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง โดยอังกฤษเป็นฝ่ายชนะและกลับมาครอบครองมลายู จึงดำเนินการปราบปรามโจรสลัดตะรุเตาอย่างเด็ดขาดด้วยการยินยอมของรัฐบาลไทย และมอบให้น็อกซ์เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการตามล่าโจรสลัดโดยเฉพาะฮอว์กินส์กับแกรนท์ซึ่งหนีไปอยู่บนเกาะอาดัง นำไปสู่ฉากไคลแม๊กซ์อันตื่นเต้นของการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างชุดปฏิบัติการของอังกฤษกับโจรสลัดแห่งตะรุเตา